แอร์รถยนต์ควรล้างเมื่อไหร่ ?
แอร์รถยนต์ควรล้างเมื่อไหร่ ?
แอร์รถยนต์ควรล้างอย่างน้อยปีละ1 ครั้ง หรือทุกๆ20,000 กิโล สามารถล้างบ่อยได้เท่าที่ต้องการ ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ แอร์มีกลิ่นเหม็นอับ ทำให้เกิดภูมิแพ้ และอุปกรณ์มีอายุการใช้งานสั้นลง
วิธีแก้เบื่องต้นมีดังนี้
1.หลีกเลี่ยงการฉีดน้ำหอมหรือสูบบุหรี่ภายในรถยนต์ สูบบุหรี่ในรถทำให้ระบบปรับอากาศหรือแอร์เสื่อมเร็วกว่าปกติ เนื่องจากสารพิษจากควันบุหรี่ทำให้เครื่องปรับอากาศต้องทำงานหนักกว่าเดิม ทำให้กรองอากาศตันได้เร็ว หรือระบบปรับอากาศอาจจะมีปัญหาได้
2.ล้างทำความสะอาดแอร์รถยนต์เป็นประจำ การล้างแอร์รถยนต์ควรกระทำทุกๆ 1-2 ปี หรือเมื่อผ่านการใช้งานทุกๆ 20,000 กิโลเมตร แต่กรณีมีความผิดปกติเกิดขึ้นกับระบบแอร์ที่เกิดจากสิ่งสกปรก เช่น มีกลิ่นเหม็นอับจากช่องแอร์ หรือลมแอร์เบากว่าปกติ การล้างแอร์อาจช่วยแก้ปัญหาในเบื้องต้นได้
3.ระบายความชื้นภายในรถยนต์ ปัญหาความอับชื้นนอกจากจะทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์แล้ว หากปล่อยทิ้งไว้ยังทำให้เกิดเชื้อราได้อีกด้วย หากมีการหายใจเอาเชื้อราเข้าไปในร่างกายมาก ๆ ก็จะส่งผลให้ร่างกายเกิดความระคายเคือง หรือส่งผลกระทบต่อปอดได้
4.เปลี่ยนกรองแอร์ กรองแอร์เป็นชิ้นส่วนที่ทำหน้าที่ในการกรองอากาศให้มีความสะอาด ก่อนที่จะส่งเข้าไปในห้องโดยสาร โดยปกติแล้วควรเปลี่ยนกรองแอร์ทุก ๆ 1 ปี หรือทุก 20,000 กิโลเมตร เพื่อช่วยให้สามารถกรองอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดกลิ่นอับชื้นที่เกิดขึ้น
ล้างตู้แอร์จะมีอยู่ทั้งหมด 2 แบบ
1.ล้างแอร์แบบถอดตู้ การล้างแอร์รถยนต์แบบถอดตู้เป็นการล้างแบบดั้งเดิมที่นิยมใช้มาอย่างยาวนาน โดยเป็นการถอดรื้อตู้แอร์ทั้งแผงตอยล์เย็นและคอยล์ร้อนออกมาทำความสะอาดด้านนอก ซึ่งสามารถล้างสิ่งสกปรกได้อย่างสะอาดหมดจดแทบทุกส่วน
ข้อเสียของการล้างแอร์แบบถอดตู้ คือ ช่างจำเป็นต้องรื้อแผงคอนโซลหน้าออกมาแทบทั้งหมด ซึ่งต้องอาศัยความชำนาญอย่างยิ่งในการรื้อ เพราะอาจเกิดความเสียหายกับชิ้นส่วนและอุปกรณ์ต่างๆ และงานประกอบกลับอาจไม่เต็ม 100% เมื่อเทียบกับการติดตั้งมาจากโรงงาน อีกทั้งยังจำเป็นต้องทำการแวกคั่มและเติมน้ำยาแอร์ใหม่ มักกินเวลานาน และราคาแพงกว่า
2.ล้างแอร์แบบไม่ถอดตู้ การล่างแอร์แบบไม่ถอดตู้เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในช่วงหลังๆ โดยอาศัยเครื่องมือพิเศษเพื่อใช้ในการล้างแอร์โดยเฉพาะ ซึ่งจะเป็นการสอดกล้องพร้อมกับอุปกรณ์ล้างแอร์เพื่อทำความสะอาดภายในตู้แอร์ จึงไม่จำเป็นต้องรื้อคอนโซลออกมาแต่อย่างใด
ข้อเสียของการล้างแอร์แบบไม่ถอดตู้ คือ ความสะอาดในการล้างมักอยู่ที่ประมาณ 70-80% เมื่อเทียบกับการล้างตู้แอร์แบบถอดตู้ แต่นั่นก็เพียงพอสำหรับการใช้งานไปได้อีก 1-2 ปี หรือประมาณ 20,000 กิโลเมตร แถมยังใช้เวลาไม่นานและไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดความเสียหายกับแผงคอนโซลในระหว่างการรื้อและประกอบเข้าไปใหม่
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติมจาก https://www.toyotasure.com/contentdetail/contentdetailsui/518
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติมจาก https://www.sanook.com/auto/83740/สอบถามเพิ่มเติม 096-7235569
ปรึกษาช่างเกี่ยวกับรถยนต์ 095-6855186